เข้าเรื่องดีกว่าทริปนี้เป็ฯทริปเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา กอร์ดอนเดินทางไปประชุมที่ Angola เป็ฯเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของอาฟริกา เราก็เลยนัดไปเจอกันที่อังกฤษ โดยกอร์ดอนประชุมที่ แองโกล่า 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นก็บินมาลอนดอน ส่วนเราก็บินจากฮิวสตันไปหากอร์ดอนที่อังกฤษ
Day 1
เราก็เตรียมตัวเก็บข้าวเก็บของ แล้วก็ให้หนูนิขับรถไปส่งที่สนามบิน เครื่องออกตอน เที่ยงครึ่ง ก็ตรงเวลาดีมาก ไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็มาต่อเครื่องที่ ชิคาโก แต่น่าเบื่อมากต้องมานั่งรอเครื่อง 3 ชม. เลยไปหาอะไรรองท้อง เป็นซุปร้อน ๆ แถมไปนั่งรอผิดเกทอีกต่างหาก จริง ๆ ไม่ได้ผิดหรอก แต่มันเปลี่ยนเกทก็ไม่บอก ดีนะสังหรณ์ใจว่าทำไมคนมันน้อยใจ เลยไปเช็คมอนิเตอร์ดูโอ้ กือบซวยซะแล้ว
ในที่สุดก็ได้ขึ้นเครือ่งจากชิคาโกตรงดิ่งไปลอนดอน ใช้เวลาประมาณ 8 ชม. ก็แทบไม่ได้นอนเลย เพราะมัวแต่ดูหนังเผอิญเครื่องนี้มันมีจอหนังให้เราต่อคนเลย เลยดูซะตลอดทาง จริง ๆ มันควรจะนอนนะ เพราะว่าบินข้ามคืน
Day 2
และแล้วก็มาถึงลอนดอน เครื่องไม่เสียเวลาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่แถวอิมมิเกรชั่นยาวนิดนึง แล้วก็ออกมานั่งรอกอร์ดอนมารับ กอร์ดอนมาถึงก่อนเรา 1 วัน นั่งรออยู่เกือบ ชั่วโมง เพราะพี่แกขึ้นรถไฟใต้ดินมา แล้วรถมันดันเสีย มีปัญหา แต่ก็ผ่านลุล่วงไปด้วยดี พาเราไปถึงโรงแรม ก็เป็นเวลาประมาณ 10 โมงเช้าของลอนดอน เวลาต่างจากเมกา 6 ชม. คือเร็วกว่า 6 ชม. เราก็ต้องปรับตัวเรื่องเวลานิดนึงแต่ไม่รุนแรงเท่ามาเมืองไทย กินอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ เราก็ไปเดินเที่ยวกัน ไม่พักไม่ผ่าน ลุยเลย
เราเดินมาเรื่อย ๆ จากโรงแรม มาถนนอ็อกฟอร์ด ซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วก็เดินมาเจอโบสถ์ชื่อ All Saint's Church ที่ถนน Vere Street. ที่สะดุดตาไม่ใช่โบสถ์เก่าแก่ แต่เป็นนก ซึ่งคล้าย ๆ นกพิราบบ้านเรา แต่แม่เจ้าทำไมมันอ้วนได้ขนาดนี้ อ้วนน่ารักมาก ไม่ใช่อ้วนแค่ตัวเดียวนะ ทั้งฝูง 100 กว่าตัว อ้วนแบบนี้หมด เราก็นึกว่าเป็นพันธ์ของมันนะที่อ้วน แต่เปล่าหรอกที่อื่นเค้าไม่อ้วนกันแบบนี้ นกที่โบสถ์นี้มันกินจุมากกว่า คนแถวนี้เยอะ คงมีแต่คนมาให้อาหารกัน เลยอดถ่ายรูปมาให้ดูกันไม่ได้ ของจริง ดูอ้วนกว่านี้นะ
ส่วนอันนี้คือ Lord Nelson's Column, Trafalgar Square. ลืมบอกไปอากาศวันนี้ ต่ำสุด 3 องศา สูงสุด 11 องศา ไม่ค่อยมีแดด ครึ้ม ๆ และมีลมตลอด
ส่วนอันนี้คือ Lord Nelson's Column, Trafalgar Square. ลืมบอกไปอากาศวันนี้ ต่ำสุด 3 องศา สูงสุด 11 องศา ไม่ค่อยมีแดด ครึ้ม ๆ และมีลมตลอด
หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไฟใต้ดิน ต่อด้วยรถบัส ไปเมืองที่อยู่รอบนอกของลอนดอน ชื่อว่า Lewisham ลูอิเชียม
แล้วก็แวะกินอาหารเที่ยงกันที่ผับชื่อ The Watch House รูปบนสังเกตุให้ดูเราจะปักดอกป๊อบปี้ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงระลึกถึงทหารผ่านศึกของอังกฤษในช่วงสงครามโลก เลยมีจำหน่ายกันทั่วไป แล้วคนเค้าก็ติดหน้าอกกันทั่วไปหมด ที่นี่เค้าดีนะ ติดกันทั่วเมืองเลย รวมทั้งประกาศสื่อทุกสื่อด้วย
รูปด้านบนเป็ฯรูปเมืองนี้ตรงร้านอาหารที่เรานั่งทานกันอยู่ ในสมัยโบราณนานเนเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว
อันนี้เป็นอาหารของกอร์ดอน อาหารดั้งเดิมของอังกฤษเลยคือพาย ใครมาที่นี่ไม่ลองพายถือว่ามาไม่ถึงนะจ้ะ
หวงซะด้วยขอชิมหน่อยก็ไม่ได้ น่ากลัวววววววววววว
หวงซะด้วยขอชิมหน่อยก็ไม่ได้ น่ากลัวววววววววววว
อันนี้เป็ฯน้ำเกรวี่ ราดลงไปบน แม้ชโปเตโต้
แล้วก็บิพายออกข้างในก็คล้าย ๆ ซุปข้น ๆ มีไก่อยู่ด้วย
ก็เดินเล่นกันรอบ ๆ เมือง เป็ฯเมืองเล็ก ๆ ไม่ใหญ่ จะมีรถเมล์อยู่ทั่วไป
ฮันแน่ ขนาดเมืองเล็ก ๆ ยังมาเจอพี่ไทยมาออกบู๊ทขายอาหารไทยจนได้ ขายดีซะด้วย
เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟต่อไปเมืองถัดไปชื่อว่า Blackheath
ก็เป็นเมืองเล็ก ๆ เหมือนกัน (ลุงแกทำอะไรเนี่ย ลืมตัวนึว่าวัยรุ่น)
ตอนนี้ใกล้คริสต์มาสต์ละ ตามร้านค้าก็เริ่มตกแต่งหน้าร้าน เตรียมต้อนรับคริสต์มาสต์
เดินจนทั่วเมืองก็นั่งรถไฟกลับเข้าลอนดอน มาแวะ ที่ตลาด ที่มีของขายเยอะแยะมากมาย เน้นเฉพาะของกินนะค้ะ เป็นตลาดเปิดใหม่ เพราะมาปีที่แล้วยังไม่มี คนเยอะมาก ๆ แทบจะเบียดกันเลย
อันนี้เป็ฯช็อคโกแล็ตสารพัดชนิด แต่ขอบอกว่าขายแพงมาก ๆ
อันนี้เป็นนก Pheasant เปิดดิก มันแปลว่านกไก่ฟ้าหนะ ไม่รู้อันเดียวกันรึเปล่า คนที่นี่นิยมกินกัน อร่อยมาก
จะเห็นว่ามีพายขายทั่วๆ มีหลากหลายชนิดให้เลือก
ดูออกมั้ยเอ่ยว่าเป็ฯอะไร เหมือนดอกไม้เลย (มันคือไก่นั่นเอง) ไม่รู้ทำยังไงให้หน้าตามันออกมาหยังงี้นะ
พายอีกแล้ว แล้วก็หัวหมู
เค้กน่ารัก ๆ
หลังจากเดินตลาดกันอิ่มหนำสำราญใจก็กลับ แต่ไม่ได้ซื้ออะไรกินซักอย่าง เพราะแค่ดูก็เพลินแล้ว จริง ๆ มีอาหารอีกเยอะมาก แต่ถ่ายไม่ไหวเพราะคนเยอะมาก รูปบนเป็นพระอาทิตย์ตกดินที่แม่น้ำเทมส์ สวยมาก เราถ่ายจากรถบัส
Day 3
วันนี้เราก็ไปอีกเมืองนึงนั่งรถไปชื่อว่า เมือง Bromley
ถ่ายรูปโรงงานทำช็อคโกแล็คระหว่างทางนั่งรถไฟ โหโรงงานเก่าแก่มาก ๆ เลย
มาถึงเมือง บร็อมเลย์ ก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี สงสัยต้องเปลี่ยนเว็บไซต์เป็ฯพาเที่ยวพาชิมซะละ เพราะกินตลอด แฮ่ ๆ ร้านนี้เป็นผับเหมือนกัน ใครมาอังกฤษต้องไปทานอาหารในผับให้ได้นะจ้ะ เพราะได้บรรยากาศ และอาหารอร่อยมาก ส่วนใหญ่เป็นอาหารดั้งเดิม อันนี้เป็ฯ Iris Pub บรรยากาดีและเก่าแก่มาก ๆ จานนี้ของข้าพเจ้าเองเป็นไก่อบ รสชาติไม่ต้องพูดถึง อร่อยมาก ๆ ซัดซะหมดจานเลย จานใหญ่มากเลยนะขอบอก อ้อที่สำคัญชอบพุดดิ้งมาก กรอบนุ่ม
หลังจากอิ่มท้องก็เดินเล่นไปทั่ว ๆ ก็เป็นเมืองเล็กเหมือนกัน
โบสถ์เก่าแก่
เจ้ากระรอกที่นี่ไม่เหมือนบ้านเราที่เมกา ไม่กลัวคนแฮะ พอเรียนจะวิ่งเข้ามาหานะ แต่ไม่ให้จับ มาขออาหารหนะ อ้อยซะไม่มีเลย น่ารักจรงิ ๆ
แล้วก็เดินตัดผ่านทุ่งเพื่อไปนั่งรถไฟกลับเข้าลอนดอน
เดินผ่านเด็ก ๆ กำลังซ้อมบอลกันอยู่ บรรยากาศอีกมาก สนามหญ้าก็ เขียวขจีดีจริง ๆ แต่อากาศ บรื๋วซ์ หนาวค่ะ
เจ้านกพิราบ ตลกดี มันมาหลบอากาศหนาวกันอยู่ใต้สะพาน อยู่กันตามร่อง เต็มไปหมดเลย
ตกตอนเย็นเราก็นั่งรถไฟกลับมาลอนดอน มาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เค้ามีเสก็ตน้ำแข้งหน้าพิพิธภัณฑ์เจ๋งมาก
คนเล่นกันเต็มไปหมด เผอิญเป็นวันอาทิตย์ด้วย เด็ก ๆ เลยเต็มไปหมดเลย น่ารัก ๆ ทั้งนั้น
อันนี้ด้านในพิพิธภัณฑ์